"ยุ้ย"อยู่เป็นนางพญา7สี สัญญาอีก1ปี/ไม่คิดย้าย

[post_ad]

นอกจากสาว มะนาว ศรศิลป์ มณีวรรณ์ จะใช้เวลาว่างเปิดธุรกิจเสริม “มิสเตอร์ คอนเฟล็ค” แล้ว เธอยังเป็นอีกหนึ่งคนที่หลงรักกีฬามาตั้งแต่เด็ก ๆ ซึ่งสิ่งที่โปรดปรานสุด ๆ นั่นก็คือ “ฟุตบอล”

นอกจากสาว มะนาว ศรศิลป์ มณีวรรณ์ จะใช้เวลาว่างเปิดธุรกิจเสริม “มิสเตอร์ คอนเฟล็ค” แล้ว เธอยังเป็นอีกหนึ่งคนที่หลงรักกีฬามาตั้งแต่เด็ก ๆ ซึ่งสิ่งที่โปรดปรานสุด ๆ นั่นก็คือ “ฟุตบอล” ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เธอมีของสะสมเกี่ยวกับฟุตบอลมากมาย โดยเฉพาะทีมในดวงใจ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” วันนี้ “สตาร์ เทรนดี้” เลยไม่รอช้า ไปพาตัวมะนาวมานั่งพูดคุยแฟชั่นเหล่านี้ พร้อมทัศนคติดี ๆ จากเธอด้วย
กีฬาอยู่ในสายเลือด
“เราเริ่มชอบกีฬาตั้งแต่เรียนระดับประถม ตอนนั้นนาวเป็นนักเปตองของโรงเรียน พอเข้ามัธยมก็เริ่มมีกลุ่มเพื่อนที่เป็นนักกีฬา ตอนมีกีฬาสีโรงเรียนเราก็ลงเล่นหมดเลย ทั้งปิงปอง บาสเกตบอล วอลเลย์บอล สาเหตุที่ชอบกีฬาเพราะด้วยลุคเราไม่ใช่สไตล์หวานอยู่แล้ว ออกห้าว ๆ นักเลง ๆ ของเล่นเราก็ไม่มีฟีลแบบเด็กผู้หญิง กลุ่มเพื่อนส่วนใหญ่ก็เด็กผู้ชาย ไปปั่นจักรยาน เตะบอล ดีดลูกแก้ว เป็นสไตล์นั้นเลยค่ะ”
เป็น “เด็กผี” ตั้งแต่เริ่มแรก
“จุดเริ่มต้นการชอบฟุตบอล คือตอนสมัยมัธยมเรามีกลุ่มเพื่อนที่ชอบเชียร์พรีเมียร์ลีกกัน แต่ละคนก็มีทีมโปรด ส่วนเราชื่นชอบทีม “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ค่ะ อย่างนักบอลคนโปรดเราก็จะเป็น เดวิด เบคแคม, ไมเคิล โอเวน, โรนัลโด , ปีเตอร์ ชไมเคิล เป็นนักเตะรุ่นนั้น คือพอได้มาดูได้เชียร์ก็รู้สึกสนุก เราไม่ได้ดูแค่นักบอลหล่ออย่างเดียว แต่เราดูการเล่นของทีมด้วย ที่เราชอบแมนฯยูฯที่สุดส่วนหนึ่งเพราะเรามีกลุ่มเพื่อนที่ชอบแมนฯยูฯ และเราเห็น เบคแคม, โอเวน ก็รู้สึกว่าเขาหล่อด้วย เก่งด้วย ยิ่งทำให้เราชื่นชอบ ต่อมามีนักเตะคนอื่นมาอยู่ในทีมอีก เราก็เริ่มติดตามทีมนี้มาเรื่อย ๆ ค่ะ”
แดงเดือดแมตช์แห่งศักดิ์ศรีในดวงใจ
“แมตช์ฟุตบอลในดวงใจ ก็ต้องเป็นแมตช์ที่ดูขลัง เป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี นั่นก็คือศึกแดงเดือด ที่ “แมนฯยูฯ” เจอกับ “ลิเวอร์พูล” ค่ะ คือศึกแดงเดือดทุกแมตช์ ไม่ว่าจะเป็นซีซั่นไหน ทั้งแมตช์เหย้าและเยือน จะเป็นแมตช์ที่เราไม่เคยพลาดเลย”
ทีมในไทยลีกก็เชียร์
“จริง ๆ เราเชียร์ทีมชาติไทยอยู่แล้ว แต่เริ่มรู้จักทีมในลีกของไทย ช่วงที่มาทำพิธีกรรายการ “ฟุตบอลไทย วีคลี่” เราก็ต้องศึกษาว่าแต่ละทีมเป็นยังไง ตอนนั้นทีมสุพรรณฯ บ้านเกิดเรา ยังไม่ได้ขึ้นมาในลีกสูงสุด ก็เชียร์ทีมในเครือสยามสปอร์ต รวมถึงทีมต่าง ๆ ในลีกไทยต้องรู้จักให้หมด ก็ศึกษาลึกเพราะด้วยหน้าที่การงานเรา บวกกับความชอบด้วยค่ะ”
เคยลงประชันแข้งเอง
“นาวเคยเตะบอลลีกหญิงด้วย จริง ๆ เราเคยเตะบอลมาตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมแล้วตอนแข่งกีฬาสี ซึ่งพอมาเตะจริง ๆ มันก็ยากมากถ้าเราไม่สามารถคอนโทรลเท้าได้อย่างมืออาชีพจริง ๆ เหนื่อยด้วย กดดันด้วย เข้าใจฟีลนักเตะเลย ซึ่งเราได้เป็นตำแหน่งกองหน้า เคยยิงได้นะคะ แต่นาวไปเรียนคิวบู๊มาเลยเจ็บขา ก็ไม่ค่อยได้วิ่ง แต่ทำท่าดุไว้ก่อน (ยิ้ม) ให้คนอื่นทำประตู”
ดูบอลได้มากกว่าความสนุก
“การเชียร์ฟุตบอลมันไม่ใช่เพื่อความสนุกอย่างเดียว บางทีเราอาจได้แนวความคิดนักเตะคนนั้น อย่างเราติดตามบทสัมภาษณ์ของนักเตะก็จะเห็นว่าเขามีแนวคิดแบบไหน ได้ศึกษาคนทั้งในแง่ไลฟ์สไตล์ แง่ครอบครัว หรืออาจดูนักบอลที่ดัง ๆ ว่าเขาประสบความสำร็จได้ยังไง เขารวยได้ยังไง เราก็ได้แนวคิดจากเขาทั้งในด้านวินัยและความอดทนค่ะ”
เริ่มต้นสะสมเพราะเพื่อน ๆ รู้ว่าชอบ
“จุดเริ่มต้นสะสมของเกี่ยวกับกีฬา คือพอเพื่อน ๆ รู้ว่าเราชอบกีฬา เขาก็จะซื้อมาให้ หรือมีผู้ใหญ่ไปเมืองนอก เจอของเกี่ยวกับฟุตบอลก็ซื้อมาฝากเรา เราก็รับหมดเลยค่ะไม่ว่าจะเป็นทีมไหน ส่วนของที่เราเริ่มซื้อเองจะเป็นพวกหมอน หมวก ผ้าพันคอ แอคเซสซอรี่ต่าง ๆ ของสะสมจริงจังชิ้นแรกของหนูเป็นเสื้อคลุมแมนฯยูฯ เพราะรู้สึกมันใส่ได้ตลอด ใส่แล้วภูมิใจว่าเป็นเด็กแมนฯยูฯค่ะ”
ตุ๊กตาคาแรกเตอร์นักบอล
“ตุ๊กตา เวย์น รูนีย์ และ ไรอัน กิกส์ มีพี่ซื้อมาให้วันเกิดและวันรับปริญญา ที่เราชอบสะสมตุ๊กตาด้วยคือมันเห็นเป็นรูปร่าง เป็นลักษณะคาแรกเตอร์ของนักเตะคนนั้น ๆ เลยค่ะ”
จานโลโก้ “แมนฯยูฯ” สุดหวง
“จานใส่ข้าวที่มีโลโก้ของแมนฯยูฯใบนี้เป็นของร้านแมนฯยูฯ คือเราไปร่วมงานเขา แล้วเราเห็นจานนั้นก็ชอบ เลยบอกว่าหนูขอได้มั้ย จริง ๆ มันมีลิขสิทธิ์ของร้าน เขาก็ไม่อยากให้ แต่เราอยากได้จริง ๆ เลยบอกว่าหนูไม่เอาค่าตัวก็ได้ ขอเป็นจานใบนี้ (หัวเราะ) เขาเลยให้เรามาและก็ได้ค่าตัวด้วยค่ะ เวลากินข้าวด้วยจานใบนี้แล้วก็มีความสุข และเราก็ตั้งใจเอาไว้เลยว่าจานใบนี้ห้ามหาย ห้ามใครเอาไปด้วย”
รองเท้าผ้าใบเน้นแบบลุย
“ส่วนใหญ่ไลฟ์สไตล์เราเป็นแบบลุย ๆ เลยเป็นรองเท้าผ้าใบ ซึ่งเราใส่ได้หมด ไม่ติดที่ยี่ห้อ แต่ถ้านาวซื้อแบบที่เป็นแบรนด์ ก็เพราะว่าใส่ได้ทน และนาวเป็นคนเท้าหนัก เน้นเลือกที่คุ้มค่า อาจราคาสูงแต่ใช้ได้หลายครั้งก็ซื้อเก็บไว้ ซึ่งนาวชอบสีพื้น ๆ สีขาว สีดำ โทนเดียว และก็มีอีกคู่ที่นาวชอบเป็นลิมิเต็ด เอดิชั่นของอาดิดาส ที่นำบุคคลทางศิลปะของโลกมา เพนท์บนรองเท้า เราถูกใจเพราะมันดูน่ารัก และมีคุณค่าทางจิตใจตรงที่มันเป็นเชิงเส้นวาดแล้วเอามาเพนท์ลงรองเท้า ซึ่งมันภูมิใจนะถ้าเรามีผลงานชิ้นเอกของใครก็ตามในโลกสักชิ้นนึง”
เลือกซื้อของสะสมที่ใช้งานได้จริง
“เวลานาวเลือกซื้อของสะสมเกี่ยวกับกีฬาแต่ละอย่างก็ดูที่ใช้งานได้จริงค่ะ อย่างผ้าพันคอแมนฯยูฯ เราเคยเอาไปใช้เชียร์ตอนแมตช์ที่ทีมแมนฯยูฯมาเตะกับทีมชาติไทย รวมทั้งเอาเสื้อที่เรามีไปใส่เชียร์ด้วย ซึ่งถ้าเงินเราเหลือใช้ ต่อไปอาจซื้อของที่ระลึกที่นำมาใช้งานได้ยากหน่อย แต่ก็ซื้อเก็บไว้เป็นแกลเลอรี่เราเองค่ะ”
นำชุดกีฬามิกซ์ แอนด์ แมตช์ เป็นชุดประจำวัน
“จริง ๆ ตั้งแต่เล่นละครครั้งแรก ตอนอยู่กองเราคิดว่าไม่ต้องใส่ชุดสวยไปกองก็ได้ เพราะก็ต้องเปลี่ยนชุด ถ่ายเสร็จก็เปลี่ยนชุดกลับบ้าน เลยใส่เสื้อบอล กางเกงบอลไปกองตลอด มันชิลชิล ดูสบายดี แต่ตอนนี้เริ่มมีคนบอกว่าใส่ชุด สวย ๆ มากองบ้างก็ได้นะเผื่อไปไหนต่อ แต่ถ้าไม่ได้ไปไหนนาวก็จะใส่แบบเสื้อยืดกางเกงบอล คือบางคนอาจจะคิดว่าเป็นชุดนอนรึเปล่า แต่ถ้าหน้าผมเราเต็มซะอย่าง ก็อย่าได้แคร์ ดูเป็นแฟชั่นไปอีกแบบ (ยิ้ม) และนาวก็มีเอาเสื้อแจ๊กเกตทีมบอล ใส่คลุมเสื้อยืด กับกางเกงยีน และก็สวมรองเท้าส้นสูงก็ดูเก๋ดี บางทีก็ใส่หมวกฟุตบอล ก็ได้ลุคแบบสาวสปอร์ตค่ะ”
สะสมตามกำลังเพราะของมีคุณค่าที่จิตใจ
“ประโยชน์จากการสะสมอย่างแรกคือเราได้ทำตามความชอบ อนาคตถ้าหาไม่ได้มันก็จะมีมูลค่าทางจิตใจและอาจมีมูลค่าทางราคาด้วย แต่นาวคงไม่เอาไปขายหรือปล่อยประมูลแน่ เพราะคนที่หวงของมาก ๆ (ยิ้ม) การสะสมเป็นสิ่งที่ดีแต่เราต้องคำนึงถึงกำลังเราด้วยว่าไหวมั้ย อยากได้มากแต่หลักหมื่นนาวก็ไม่ซื้อนะ เราก็ไปหาภาพมาเก็บไว้ เพราะอย่างที่บอกของเรานี้มันมีค่าทางจิตใจ หากมีกำลังซื้อได้ก็ซื้อไป แต่หากไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะยังไงมันก็อยู่ในใจเราอยู่แล้วค่ะ”



(source)