คาร์โรลล์โหม่งชัย! ค้อนตีสิงห์10คน 2-1

[post_ad]

เริ่มเกมมาถึงนาที 5 เจ้าบ้านมีโอกาสทักทายก่อนจาก ดิมิทรี ปาเยต กดด้วยขวาแต่ก็แรงข้ามคานไปไกล นาที 9 เป็นทางฝั่งทีมเยือนมีโอกาสบ้างจาก ดีเอโก้ คอสต้า กดด้วยขวาเต็มข้อแรงข้ามคานไปไกล นาที 17 เวสต์แฮม ได้ประตูออกนำก่อนจาก ดิมิทรี ปาเยต เปิดลูกเตะมุมทางซ้ายแล้ว ดีเอโก้ คอสต้า สกัดบอลไปเข้าทาง เมาโร ซาราเต้ หวดด้วยขวาเต็มๆ บอลพุ่งผ่านมือ อัสเมียร์ เบโกวิช ตุงตาข่าย 1-0 นาที 35 เชลซี เกือบได้ประตูตีเสมอ เชส ฟาเบรกาส เปิดลูกเตะมุมทางด้านขวามาให้ เคิร์ท ซูม่า โขกไปติด มานูเอล ลานซินี่ บอลกลิ้งกำลังจะข้ามเส้นแต่ไม่ทั้งใบแล้ว ลานซินี่ เตะออกไปได้และโกลไลน์ก็ไม่ส่งสัญญาณทำให้ “สิงห์บลูส์” อดได้ประตู นาที 39 โอกาสทองของ “ขุนค้อน” ดิมิทรี ปาเยต ต้อกส้นให้ มานูเอล ลานซินี่ หลุดเดี่ยวทางเขตโทษด้านซ้ายก่อนจะชิพแรงข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย นาที 42 วิลเลี่ยน จ่ายบอลให้ เชส ฟาเบรกาส ทางด้านขวาแล้วยิงผ่าน อาเดรียน ตุงตาข่าย แต่เป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน ถัดมานาทีเดียว เชลซี ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คนเมื่อ เนมานย่า มาติช มาโดนใบเหลืองที่สองกลายเป็นแดงไล่ออกสนามจังหวะไปดึง ดิอาฟร่า ซาโก้ หมดเวลา 45 นาทีแรก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด นำ เชลซี อยู่ 1-0 ช่วงพักครึ่งแรก โชเซ่ มูรินโญ่ ไปมีเรื่องกับผู้ตัดสินในอุโมงค์ทำให้โดนไล่ไปนั่งบนอัฒจันทร์ นาที 56 “สิงห์บลูส์” มาได้ประตูตีเสมอ วิลเลี่ยน เปิดลูกเตะมุมทางด้านซ้ายมาหน้าประตูแล้วบอลตกหน้า แกรี่ เคฮิลล์ ซัดด้วยขวาผ่าน อาเดรียน เข้าประตูไปเป็น 1-1 นาที 79 เจ้าบ้านมาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง อารอน เครสส์เวลล์ โยนบอลจากด้านซ้ายมาให้ แอนดี้ คาร์โรลล์ ขึ้นโหม่งผ่าน อัสเมียร์ เบโกวิช เข้าประตูไป 2-1 จากนั้นทำประตูกันไม่ได้อีกจนจบเกม 90 นาที เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ เชลซี ไปได้ 2-1 รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด : ระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตู : อาเดรียน กองหลัง : คาร์ล เจนกินสัน, เจมส์ ทอมกิ้นส์, เจมส์ คอลลินส์, อารอน เครสส์เวลล์ กองกลาง : มาร์ค โนเบิล, ชีกู กูยาเต้ – มานูเอล ลานซินี่, ดิมิทรี ปาเยต, เมาโร ซาราเต้ กองหน้า : ดิอาฟร่า ซาโก้ เชลซี : ระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตู : อัสเมียร์ เบโกวิช กองหลัง : เคิร์ท ซูม่า, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า กองกลาง : รามิเรส, เนมานย่า มาติช – วิลเลี่ยน, เชส ฟาเบรกาส, เอแด็น อาซาร์ กองหน้า : ดีเอโก้ คอสต้า


(source)