Top Ad unit 728 × 90

Breaking News

  

สกู๊ปพิเศษ : Safe Mou หรือ Sack Mou?

ก่อนที่ทุกสิ่งที่สร้างมาจะล่มสลายลงตรงหน้า ตามกระแสข่าว อบราโมวิช กำลังไตร่ตรองเรื่องนี้อย่างถ้วนถี่ ไม่ได้ใช้เพียง “ความรู้สึก” แต่ใช้ “เหตุผล” เข้ามาประกอบการตัดสินใจด้วย ถึง “ใจ” จะอยากปกป้องและสนับสนุนต่อไป แต่เขาไม่สามารถเดิมพันอนาคตของสโมสรกับชายเพียงคนเดียวได้ และแม้จะทำใจว่าพวกเขาหมดสิทธิ์ในการป้องกันตำแหน่งแชมป์แล้วจากสถานการณ์ปัจจุบันที่อยู่ แต่เชลซี กำลังเสี่ยงที่จะเสียพื้นที่แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยเวลานี้ตามหลังจากอันดับ 4 10 คะแนน และแพ้ไปแล้ว 6 จาก 11 นัดในฤดูกาลนี้ อบราโมวิช ไม่สามารถปล่อยให้ทีมล่มสลายลงตรงนี้ได้ และหากจำเป็นต้องเลือกทางนี้ เขาเชื่อว่ามืออาชีพอย่างมูรินโญ่ ย่อมเข้าใจเช่นกัน อย่างไรก็ดีหากเชลซี เลือกเส้นทางนั้นสิ่งที่จะเป็นปัญหาตามมา - และอาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่จอมอหังการยังไม่ถูกเด็ดหัว - คือ “ใคร” ที่จะเข้ามาทำหน้าที่แทน? ในความเป็นสโมสรระดับท็อป แม้จะมีข้อดีที่ใครก็อยากเข้ามารับหน้าที่ แต่ในข้อเสียคือตัวเลือกที่ “ดีพอ” นั้นมีไม่มากนัก และพวกเขาไม่สามารถจะเลือกใครมาทำงานแทนก็ได้ Daily Telegraph รายงานว่าตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับเชลซี นั้นล้วนเป็นกุนซือระดับท็อปอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า, ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ และอันโตนิโอ คอนเต้ รวมถึงตัวเลือกที่น่าเซอร์ไพรซ์อย่าง ลีโอนิด สลัตสกี้ กุนซือทีมเซียสก้า มอสโก เพียงแต่รายชื่อทั้งหมดนั้น “ไม่พร้อม” จะรับหน้าที่ในช่วงเวลานี้ หากอบราโมวิช และฝ่ายบริหารต้องการกุนซือในกลุ่มดังกล่าวจริง พวกเขาจะต้องหาคนที่จะเข้ามารับเผือกร้อนแทนก่อน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกเช่นกัน กุนซือในข่ายมีชื่อของอดีตผู้จัดการทีม คาร์โล อันเชล็อตติ และกุส ฮิดดิ้งค์ ในรายของ “คาร์เล็ตโต้” มีข่าวว่าอยู่ในลอนดอนเวลานี้ครับ แต่ไม่ต้องการจะทำหน้าที่แค่เป็น “ตัวเผื่อเลือก” ขณะที่ฮิดดิ้งค์ ยินดีที่จะทำหน้าที่ไปจนจบฤดูกาล แต่ผลงานในระยะหลังนั้นไม่ดีนักโดยเฉพาะกับทีมชาติฮอลแลนด์ จากสถานการณ์แล้วไม่ผิดครับหากจะบอกว่าภาพของคนที่เข้ามาแทนที่ The Special One ยังไม่ชัดเจน และทั้งหมดเป็นเรื่องของ “อนาคต” ที่ต้องรอดูกันอย่างใกล้ชิดจนถึงสุดสัปดาห์นี้ สิ่งที่แน่นอนมีเพียงแค่มูรินโญ่ สามารถถูกปลดจากตำแหน่งได้ ไม่ได้อยู่ในสถานะ “แตะต้องไม่ได้” อย่างที่เคยเข้าใจ แต่ก่อนจะถึงจุดนั้น คำถามสำคัญเวลานี้คือการที่เขายังมีความสามารถมากพอที่จะแก้ไขทุกอย่างได้หรือไม่? เรียนตามตรงในเวลานี้ ผมไม่ค่อยมั่นใจครับ จากที่ติดตามมาอย่างต่อเนื่อง มูรินโญ่ ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกสำหรับปัญหาของเชลซี ซึ่งส่วนตัวคิดว่าน่าเห็นใจเพราะทุกอย่างมันเลวร้ายลงอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว แก้จุดนี้ยังไม่ได้ จุดนั้นก็วอดวายต่อ หนึ่งในประเด็นที่เริ่มมีการจับตาคือความสัมพันธ์ระหว่างเขากับ เอเดน อาซาร์ นักเตะหมายเลขหนึ่งของทีมที่ดูคล้ายจะมีรอยร้าวกัน หลังจากที่ มูรินโญ่ ดร็อปเขาในเกมกับแอสตัน วิลล่า และวิพากษ์เรื่องความทุ่มเทในการเล่นของดาวเตะเจ้าของรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำปี ครั้งนั้นอาซาร์ โต้ตอบมูรินโญ่ อย่างเจ็บแสบด้วยการกด Like รูปใน Instagram ของเรอัล มาดริด มีการเปิดเผยครับว่า มูรินโญ่ และสตาฟฟ์โค้ชพยายามที่จะ “เคลียร์ใจ” กับอาซาร์ โดยมีการเรียกมาพูดคุยกันอย่างยืดยาวก่อนเกมกับลิเวอร์พูล ซึ่งนอกเหนือจากจะต้องการสะสางทุกอย่างไม่ให้เหลือเรื่องใดติดค้างกันอีก มูรินโญ่ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าอาซาร์ จะกลับมาเป็นคนเก่าที่สามารถจุดประกายให้ทีมได้อีกครั้ง น่าเศร้าที่ความพยายามทั้งหมด รวมถึงการให้เล่นในบท “หมายเลข 10” ที่อาซาร์ชื่นชอบ จบลงด้วยผลงานที่แย่ที่สุดนัดหนึ่งในชีวิตของดาวเตะชาวเบลเยี่ยม ที่มีสถิติเป็น “0” ทุกอย่างในเกม และถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 59 โดยคนที่ลงมาแทนคือ เคนเนดี้ นักเตะดาวรุ่งชาวบราซิล นั่นหมายถึงระหว่าง มูรินโญ่ กับอาซาร์ ทุกอย่างอาจถึงจุดที่ไม่มีอาจหวนกลับแล้ว สิ่งที่น่าคิดต่อมาคือ “มูผู้โอหัง” คนนี้กำลังสูญเสียความไว้วางใจจากลูกทีมไปแล้วจริงๆหรือไม่ เรื่องนี้คิดได้แต่ยังตอบไม่ได้ครับ ขอให้ดูปฏิกริยาของนักเตะเชลซี ในเกมกับดินาโม เคียฟ ก่อนทุกอย่างจะชัดเจนมากขึ้น เพราะ ณ เข็มนาฬิกาเดินไป ชะตากรรมของมูรินโญ่ นั้นไม่สามารถเรียกว่าอยู่ในกำมือของตัวเองอีกต่อไป หากลูกทีมนั้นยังมีใจ ทุกคนจะสู้มากกว่าที่ผ่านมาเพื่อให้มูรินโญ่ได้อยู่ต่อ แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น อบราโมวิช จะรับรู้ถึงสัญญาณและจะตัดสินใจทันทีเพื่ออนาคตที่ดีกว่าของสโมสร แม้ว่ามันจะน่าเจ็บปวดเพียงใดก็ตาม


(source)

สกู๊ปพิเศษ : Safe Mou หรือ Sack Mou? Reviewed by sovanndy on 7:28 AM Rating: 5

Post Comment

All Rights Reserved by Load Thai Post © 2014 - 2015

Contact Form

Name

Email *

Message *

Powered by Blogger.