ขณะที่แชมป์เก่าอย่างเชลซีกำลังเผชิญกับช่วงตกต่ำที่สุดในยุคของ โรมัน อบราโมวิช และ โจเซ่ มูรินโญ่
และทีมที่หวังจะกลับมาให้ได้อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงมึนตึ้บอยู่กับปรัชญาของผู้จัดการทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่โชว์ฟอร์มได้ดีแบบคงเส้นคงวาที่สุดในฤดูกาลหลังๆ ยังคงรักษามาตรฐานการเล่นเอาไว้ได้
และนั่นน่าจะทำให้พวกเขามีโอกาสที่สดใสในฤดูกาลนี้หลังได้แชมป์สลับกับรองแชมป์มาตลอด 4 ปีหลังสุด
แต่ก็ใช่ว่าเส้นทางสู่ถ้วยพรีเมียร์ลีกของเรือใบสีฟ้าจะราบรื่นสะดวกโยธิน
เพราะถึงแม้สิงห์ครามจะหลุดวงโคจรไปเพราะวิกฤติศรัทธาที่เกิดขึ้นกับมูรินโญ่ และผีแดงจะบ่มิไก๊ในการทำประตูเพราะปรัชญาเน้นครองบอลไม่เน้นยิงของ หลุยส์ ฟาน ฮัล
แต่อย่าลืมว่ายังมีทีมจอมเอี่ยวอย่าง อาร์เซนอล ที่พร้อมขอแจมแย่งแชมป์ด้วยเหมือนเคยอยู่อีกทีม
แม้จะร้างแชมป์พรีเมียร์ลีกมานานถึง 11 ปีแล้ว แต่ อาร์แซน เวนเกอร์ ก็ยังคงพาปืนใหญ่ได้ลุ้นมาเรื่อยๆ ทุกปี แม้จะทำได้ดีที่สุดแค่การจบในอันดับท็อปโฟร์มาตลอดแทน
แต่นั่นก็แสดงให้เห็นศักยภาพของอาร์เซนอลว่าอยู่ในมาตรฐานที่ดี เพียงแต่ไม่ดีที่สุดเท่านั้น เมื่อต้องเจอกับทีมที่ดีที่สุดในแต่ละซีซั่น
ใน 19 ฤดูกาล ที่เวนเกอร์เข้ามานั่งเก้าอี้ผู้จัดการทีมอาร์เซนอล ทีมของเขาไม่เคยหลุดจากอันดับ 1-4 ของพรีเมียร์ลีกแม้แต่ครั้งเดียว แม้ว่า 10 ปีหลังสุดจะทำได้แค่ที่ 3 และ 4 ก็ตาม
แต่นั่น ก็เป็นผลงานที่ทำให้ไม่มีใครกล้าตัดปืนใหญ่ออกจากการลุ้นแชมป์ทุกครั้งที่ฤดูกาลใหม่เริ่มต้นขึ้น
ฤดูกาลนี้เป็นอีกครั้งที่สาวกเดอะ กันเนอร์ส มีความหวังที่สดใสว่าหลังจากไม่ต้องเจอกับการออกสตาร์ตที่ย่ำแย่แล้วอาการแผ่วปลายจะไม่มาเยือนทีมของพวกเขาด้วย เพื่อจะเพิ่มโอกาสในการลุ้นแชมป์ให้มากกว่าที่เคย
เพราะปีนี้อาร์เซนอลทำได้ดีทั้งเรื่องการยิงประตูที่ทำไปแล้ว 21 ลูก น้อยกว่าแมนฯ ซิตี้ที่ยิงได้สูงสุดในลีกแค่ 4 ลูก
ขณะที่เกมรับก็เหนียวแน่นจนเพิ่งเสียไปแค 8 ประตู เท่านั้น น้อยที่สุดเท่ากับสเปอร์ส
ส่วนผลงานนอกบ้านก็ทำได้ดี และเป็นทีมที่เก็บแต้มนัดเยือนได้สูงสุดถึง 15 แต้ม
ปัญหาเดียวที่ดูจะรบกวนปืนใหญ่อยู่ในตอนนี้คือเรื่องการบาดเจ็บของนักเตะ แต่ถ้าสามารถบริหารจัดการได้ดีพอ ฤดูกาลนี้ก็คงน่ารักน่าลุ้นสำหรับอาร์เซนอล
ถ้าแมนฯ ซิตี้ที่มีแกว่งๆ ให้เห็นบ้างแล้ว พลาดท่าขึ้นมาเมื่อไหร่
ปืนใหญ่ก็พร้อมจะยิงรัวๆ ขึ้นมาแย่งบัลลังก์จ่าฝูงได้ทุกเมื่อ
(
source)
Post Comment