เคล็ดลับนักพูดระดับโลก : เทเลพรอมพ์เตอร์

[post_ad]
วันนี้ผมเลยจะชวนคุณผู้อ่านมารู้จักกับเทคโนโลยีที่ช่วยให้บรรดาผู้นำระดับโลกเหล่านั้นสามารถกล่าวสุนทรพจน์ได้อย่างคล่องแคล่ว เทคโนโลยีนั้นก็คือ เครื่องเทเลพรอมพ์เตอร์ผมเชื่อว่าคุณผู้อ่านประจำคอลัมน์วันพุธของผมหลายท่านคงเคยมีข้อสงสัยในใจ ว่าทำไมเวลาบรรดาผู้นำประเทศหลายประเทศในเวทีโลก ต้องกล่าวสุนทรพจน์หรือปาฐกถาในเวทีการประชุมที่เป็นทาง การเป็นชั่วโมง ๆ สามารถพูดกันได้เก่งอย่างคล่องแคล่ว โดยไม่ต้องก้มมองสคริปต์เลยแม้แต่ครั้งเดียว แถมบางครั้งสามารถประดิษฐ์คำพูดให้สละสลวยสวยหรูได้อย่างไม่น่าเชื่อ
แน่นอนครับว่าในเวทีการเมืองระดับโลกนั้น ทักษะการพูดในที่สาธารณะเป็นสิ่งที่สำคัญมากและแต่ละคนก็เก่งกันอยู่แล้ว แต่คำถามก็คือพวกเขาเหล่านั้นพูดกันเก่งได้ขนาดนั้นเลยหรือ ที่สามารถกล่าวสุนทรพจน์ทีเป็นชั่วโมง ๆ โดยไม่หลุดประเด็นต่าง ๆ แบบไม่ดูโพยเลย คำตอบคือพวกเขาเหล่านั้นมีเทคโนโลยีเป็นตัวช่วยครับ และใช้ตัวช่วยเหล่านั้นอยู่เป็นประจำ เพียงแค่ในบางครั้งคนทั่วไปที่ไม่รู้จักเทคโนโลยีในด้านนี้อาจจะไม่ทราบ
วันนี้ผมเลยจะชวนคุณผู้อ่านมารู้จักกับเทคโนโลยีที่ช่วยให้บรรดาผู้นำระดับ โลกเหล่านั้นสามารถกล่าวสุนทรพจน์ได้อย่างคล่องแคล่ว เทคโนโลยีนั้นก็คือ เครื่องเทเลพรอมพ์เตอร์ (Teleprompter) ซึ่งหลักการของเครื่องเทเลพรอมพ์เตอร์นี้คือการทำตัวหนังสือของคำกล่าว สุนทรพจน์ที่บรรดาผู้นำต้องอ่านให้เป็นตัวไหลขึ้นบนจอทีวี แต่ประเด็นคือจอทีวีนี้ไม่ใช่หน้าจอทีวีธรรมดาทั่ว ๆ ไปครับ แต่เป็นเหมือนแผ่นกระจกใส ๆ ที่มองจากมุมอื่นก็เป็นเหมือนแผ่นกระจกหรือพลาสติกใสธรรมดาซึ่งจะสะท้อน กระจกด้านเดียว โดยส่วนใหญ่มักจะมี 2-3 แผ่น คือซ้าย ขวา และบางครั้งก็มีอยู่ด้านหน้าของผู้พูดด้วยอีกแผ่นหนึ่ง โดยกระจกแผ่นใสนี้จะเป็นกระจกชนิดพิเศษที่สามารถสะท้อนข้อความจากจอ มอนิเตอร์ เพื่อให้ผู้พูดสามารถอ่านข้อความที่จะใช้พูดผ่านทางกระจกนี้ได้เลย ซึ่งสามารถกำหนดขนาดของตัวอักษรที่จะแสดง สีของตัวอักษร รวมไปถึงความเร็วในการเลื่อนของข้อความทั้งหมดได้ เพราะฉะนั้นเวลาคนฟังมองจากข้างหน้าก็ดูราวกับว่าผู้นำประเทศเหล่านั้นหันไป พูดกับผู้ฟังด้านซ้ายที หันไปพูดกับผู้ฟังด้านขวาที ซึ่งในความเป็นจริงแล้วผู้พูดเพียงหันไปดูจอด้านซ้ายทีด้านขวาทีเท่านั้นเอง
ซึ่งจริง ๆ แล้วเครื่องเทเลพรอมพ์เตอร์ไม่ได้เพิ่งมีนะครับ มีมานานมากแล้ว โดยผู้นำสหรัฐอเมริกาคนแรกที่ใช้เครื่องเทเลพรอมพ์เตอร์นี้ก็คือ ดไวท์ ไอเซนฮาวร์ (DwightEisenhower) ประธานาธิบดีคนที่ 34 ของสหรัฐ ซึ่งใช้ตั้งแต่ปี ค.ศ.1952 หรือก็คือเมื่อกว่า 60 ปีที่แล้ว หลังจากนั้นก็มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในนักการเมืองสหรัฐ คนแล้วคนเล่า ตั้งแต่ประธานาธิบดี ลินดอน จอห์นสัน (Lyndon Johnson) มาจนถึงประธานาธิบดี บิล คลินตัน (Bill Clinton) และมาถึง บารัค โอบามา ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน
ซึ่งโอบามาเป็นหนึ่งในบุคคลที่ได้ชื่อว่าใช้เครื่องเทเลพรอมพ์เตอร์ได้คล่อง และทำได้คล้ายจริงมากที่สุดคนหนึ่งครับ ผมเคยเห็นหลายคนที่ติดตามฟังโอบามากล่าวสุนทรพจน์มาหลายต่อหลายครั้ง พอผมเล่าเทคโนโลยีนี้ให้ฟังยังไม่เชื่อเลยครับว่าโอบามาใช้เทคโนโลยีนี้จริง
จนผมต้องนำรูปภาพของเครื่องนี้ในตอนโอบามากล่าวสุนทรพจน์พร้อมข้อมูลประกอบ มายืนยัน ถึงจะเชื่อในที่สุด
ซึ่งจริง ๆ แล้วแม้เครื่องเทเลพรอมพ์เตอร์นี้จะใช้ได้ดีและแพร่หลายมานานมาก แต่ก็มีตอนหลุด ๆ ให้ขำกันหลายครั้งหลายคราว อย่างเช่น มีตอนที่ ไบรอัน โคเวน (Brian Cowen) อดีตนายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ที่ขึ้นไปกล่าวสุนทรพจน์แล้วอ่านตามเครื่องเทเลพร อมพ์เตอร์นี้ อ่านไปอ่านมาสักพัก ก็ถึงบางอ้อว่าคำกล่าวสุนทรพจน์ที่ตัวเองอ่านอยู่นี้ซ้ำกับคนพูดก่อนหน้า เพราะเครื่องเทเลพรอมพ์เตอร์ดันโหลดข้อมูลผิด ดันไปโหลดข้อมูลซ้ำซ้อนจากคนพูดก่อนหน้าที่เพิ่งพูดจบไป หรือกรณีคล้าย ๆ กันนี้ก็เคยเกิดขึ้นเช่นกันครับกับ บิล คลินตัน ตอนที่เขากล่าวสุนทรพจน์ใน State of the Union Address ปี ค.ศ. 1994
เพราะฉะนั้นถ้าท่านผู้นำรัฐบาลของประเทศไทยเราหรือรัฐมนตรีท่านไหน ใครที่จะใช้เครื่องเทเลพรอมพ์เตอร์ก็อย่าลืมฝึกให้คล่อง ๆ และตรวจสอบตรวจทานข้อมูลที่โหลดขึ้นไปให้ดีก่อนที่จะอ่านตามนะครับ ไม่งั้นอาจปล่อยไก่ตัวเบ้อเร่อได้เหมือนกรณีที่ผมเล่าให้ฟังได้ครับ.
(source)
เคล็ดลับนักพูดระดับโลก : เทเลพรอมพ์เตอร์
Reviewed by sovanndy
on
2:25 AM
Rating:

No comments: