ชงตั้ง 'วิป สปท.'ประสานงานร่วม 'แม่น้ำ 5 สาย'

[post_ad]

สปท.เตรียมถกข้อบังคับการประชุม 2 พ.ย.นี้ ชงตั้ง “วิป สปท.” ประสานงานร่วม “แม่น้ำ 5 สาย” ผนึกกำลังภาคประชาชน-หน่วยงานราชการ ดันปฏิรูปประเทศทิศทางเดียวกัน

เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ในวันที่ 2 พ.ย.นี้ เวลา 09.30 น. มีวาระการพิจารณาเรื่องร่างข้อบังคับการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. ....ที่คณะกรรมาธิการ(กมธ.)ยกร่างข้อบังคับการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูป ประเทศ พ.ศ. ....พิจารณาเสร็จแล้ว
โดยมีประเด็นที่น่าสนใจในหมวด 3 ว่าด้วยการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ กำหนดให้ สปท.ดำเนินการปฏิรูปประเทศ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 39/2 เพื่อดำเนินการให้เกิดการปฏิรูปในด้านต่าง ๆ ต่อจากสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)โดยให้คำนึงถึงความสำคัญ เรื่องด่วนและสัมฤทธิผลของการปฏิรูปในระยะเวลาที่เหลืออยู่ ด้วยการประสานงานการปฏิรูปกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คณะรัฐมนตรี (ครม.) คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) หน่วยงาน และองค์กรอื่น รวมถึงส่วนราชการและประชาชนทุกภาคส่วน
รวมถึงให้มีการตั้ง “คณะกรรมการประสานงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ”ประกอบด้วยสมาชิก สปท.ที่เป็นตัวแทนของคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาขับเคลื่อนการปฏิรูป ประเทศ(วิป สปท.)จำนวน 2 คน สมาชิกอื่นและผู้ทรงคุณวุฒิ ตามจำนวนที่ประธานสภากำหนด โดยมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้ 1.ประสานงานกับ สนช. ครม. สนช. กรธ. หน่วยงาน และองค์กรอื่น รวมถึงส่วนราชการ และประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อให้มีการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศไปในแนวทางเดียวกัน 2.ติดตามและขอทราบความคืบหน้าเรื่องที่เสนอการปฏิรูปให้มีผลในเชิงปฏิบัติ จากฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และรายงานให้สภาทราบ 3.เข้าร่วมประชุมกับ กมธ.วิสามัญกิจการสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศตามที่ประธานสภากำหนด
นอกจากนี้ถ้าสภาเห็นสมควรให้มีการปฏิรูปเรื่องใดแล้ว ให้สภาจัดทำแผนการปฏิรูป เสนอวิธีการปฏิรูป พร้อมกำหนดเวลาการปฏิรูปให้ชัดเจนเพื่อความสัมฤทธิผลในเรื่องนั้น ๆ โดยให้ประธานสภาและคณะกรรมการประสานงาน ดำเนินการประสานและขอความเห็นชอบจากครม. เพื่อให้มีมติและคำสั่งให้ส่วนราชการทุกหน่วยงานหรือบางหน่วยงานให้ดำเนิน การปฏิรูปในเรื่องที่หน่วยงานนั้นรับผิดชอบตามข้อเสนอแนะของสภาดังกล่าว เพื่อให้เกิดการปฏิรูปประเทศไปในแนวทางเดียวกัน
ทั้งนี้เมื่อสภาได้พิจารณาศึกษาเพื่อการปฏิรูปในเรื่องใดเสร็จแล้ว และสภาเห็นว่าเป็นกรณีที่จำเป็นเรื่องด่วนเพื่อประโยชน์แห่งการปฏิรูปให้คณะ กรรมการประสานงานดำเนินการประสานกับ คสช. ครม. สนช. เพื่อจัดให้มีการปฏิรูปในเรื่องดังกล่าวตามอำนาจหน้าที่ให้เกิดความสัมฤทธิ ผลโดยเร็ว.



(source)