โต้ “บิ๊กตู่”ใช้ม.44 ออกคำสั่งคุ้มครองตัวเอง

[post_ad]

“บุญทรง” โต้ “บิ๊กตู่”ใช้ ม.44 ออกคำสั่งคุ้มครองตัวเอง ชี้ชัดจำนำข้าวเป็นเกมการเมือง ทำลาย"ปู" ยันจีทูจีทำตามระเบียบขั้นตอน อ้างรัฐบาลนี้ก็ทำ

เมื่อวันที่ 1 พ.ย. นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ และจำเลยในคดีระบายข้าวแบบจีทูจี โพสต์ข้อความลักษณะจดหมายเปิดผนึกโดย ระบุว่า ตนเห็นภาพข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรง ตำแหน่งทางการเมืองด้วยความรู้สึกสะเทือนใจ ในฐานะอดีตรมว.พาณิชย์ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงในการดูแลการรับจำนำข้าวและการระบายข้าว ตนย่อมรู้ดีกว่าใคร ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้ทำอะไรผิด แต่การที่ต้องถูกดำเนินคดีถูกถอดถอนและกำลังจะถูกเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสีย หายในทางแพ่ง โดยหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ต้องใช้มาตรา 44 ออกคำสั่ง คสช ที่ 39 / 2558 คุ้มครองทุกคน และทุกองค์กรที่ถูกใช้ให้มาจัดการกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์และพวกตนในเรื่องข้าวนั้น ย่อมเห็นได้ชัดเจนว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์และโครงการรับจำนำข้าว คือ เหยื่อในทางการเมือง ซึ่งการกล่าวหาว่า นายกฯยิ่งลักษณ์ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวจนทำให้ ประเทศชาติเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงนั้น เป็นเพียงข้ออ้างเพื่อทำลาย น.ส.ยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทย เพื่อปูทางไปสู่การยึดอำนาจการปกครอง
นายบุญทรง กล่าวอีกว่า การรับจำนำข้าวถูกนำมาโจมตีเป็นประเด็นการเมือง โดยเฉพาะการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ให้กับบริษัทที่ไม่ได้มีฐานะเป็นรัฐและมีการสมยอมเรื่องราคานั้น 1.ระเบียบและแนวปฏิบัติที่ถือว่ารัฐ ให้ครอบคลุมถึงรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลของประเทศ ผู้ซื้อมีขึ้นตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยกรมการค้าต่างประเทศจะเป็นผู้ตรวจสอบและพิจารณาคุณสมบัติของผู้เสนอซื้อ ว่ามีฐานะเป็นรัฐหรือไม่ 2.กรมการค้าต่างประเทศตรวจสอบ บริษัทที่ซื้อข้าวนั้นเป็นรัฐวิสาหกิจของมณฑลโดยรัฐบาลจีนถือหุ้น100% จึงถือเป็นรัฐ จากนั้นได้มีการทำสัญญาแบบจีทูจี ตามแนวปฏิบัตินี้หลายครั้ง และเมื่อเดือนพ.ย. 2557 รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ได้ทำสัญญาขายยางแบบรัฐต่อรัฐระหว่างองค์การสวนยางกับChina Hainan Rubber Industry Group Co., Ltd. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของมณฑลเช่นกัน 3.วิธีการที่บริษัทจีนเสนอขอซื้อยางจากรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่ต้นจนจบ ทำโดยวิธีเดียวกันกับการขายข้าวแบบจีทูจีในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ 4.ส่วนที่อ้างว่า พบเช็คจากธนาคารภายในประเทศนำมาชำระค่าข้าวแสดงว่าไม่มีการซื้อขายจริง เพราะไม่ได้ชำระเป็น L/C จากต่างประเทศเป็นไปตามแนวปฏิบัติของกระทรวงพาณิชย์ ที่ผู้ซื้อข้าวจ่ายเป็นเช็คเงินสดได้
นายบุญทรง กล่าวอีกว่า 5.ข้อโจมตีที่ว่าการที่รัฐบาลไม่สามารถระบายข้าวหรือระบายในราคาที่ต่ำกว่า ทุนทำให้ประเทศขาดทุนมหาศาลนั้น เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่ถูกต้องเพราะการขายข้าวหรือสินค้าเกษตรได้ในราคาที่ต่ำ กว่าราคาที่รับจำนำจากเกษตรกรจึงถือเป็นเรื่องปกติและโครงการจำนำข้าวไม่ได้ มีขึ้นเพื่อการแสวงหาผลกำไรให้กับรัฐแต่เป็นการแทรกแซงราคาสินค้าเกษตรเพื่อ ช่วยเหลือชาวนา ดังนั้นการขายข้าวได้ในราคาต่ำจึงไม่ใช่ตัวชี้วัดว่าโครงการจำนำข้าวล้มเหลว แต่อย่างใด 6.กรณีข้าวขาดหายไปจากโกดังก็ หรือข้าวเสื่อมสภาพนั้นอยู่ในความรับผิดชอบของคณะอนุกรรมการกำกับดูแลการรับ จำนำข้าวมีเจ้าของโกดังที่เป็นผู้รับฝากเก็บสินค้าให้เป็นไปตามสัญญาฝากเก็บ หากมีความเสียหายใด ๆ เกิดขึ้นรัฐบาลก็สามารถเรียกร้องเอาจากผู้รับฝากเก็บหรือจากธนาคารผู้ค้ำ ประกันได้
“ถ้าจะอ้างว่าเป็นจีทูจีปลอมก็ปลอมมาตั้งแต่รัฐบาลอภิสิทธิ์จนถึงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์หรือจะกล่าวหาว่าเป็นการสมยอมเรื่องราคาหรือฮั้วก็ทำเหมือนกับ ทั้งสองรัฐบาล จนท้ายที่สุดเมื่อหัวหน้าคสช ต้องใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งหัวหน้า คสช. คุ้มครองทุกคนและทุกองค์กรที่ถูกใช้ให้มาจัดการในเรื่องนี้ คือ หลักฐานที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าโครงการรับจำนำข้าวถูกใช้เป็นเครื่องมือ เพื่อทำลายล้างนายกฯยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยโดยไม่ต้องคำนึงถึงวิธีการ ความถูกต้องและไม่มีความเป็นธรรมใด ๆ จึงต้องออกคำสั่งมาคุ้มครองตัวเองและบริวารไม่ให้ถูกฟ้องกลับ” นายบุญทรง กล่าว




(source)