บิ๊กตร.สั่งสอบรุมยำนักข่าว ฟันไม่เลี้ยงถ้า"โปลิศ"ชี้เป้า

[post_ad]
บิ๊กตำรวจสั่งสอบเหตุ "นักข่าวไทยโพสต์" ถูกทำร้าย ลั่นถ้าตำรวจมีเอี่ยวชี้เป้าให้โดนยำจริง เจอโทษหนัก ขณะที่นักข่าวหนุ่มเซ็ง ไม่ได้แจ้งร้านเปิดเกินเวลา แต่กลับโดนเจ้าของร้านพาพวกรุมยำอ่วมกรณีเหตุเจ้าของร้านอาหารชื่อดังพาเด็กในร้าน 4-5 คน บุกทำร้ายร่างกายนายสุวัฒน์ ปัญจวงศ์ อายุ 31 ปี ผู้สื่อข่าวสังกัดหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ประจำศาลยุติธรรม หน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น โดยอ้างว่านายสุวัฒน์โทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจให้มาตรวจร้านของตัวเองเพราะต้อง การกลั่นแกล้งให้ปิด ขณะที่นายสุวัฒน์ พยายามอธิบายว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่ฝ่ายเจ้าของร้านอาหารกลับไม่ฟัง ยกพวกรุมทำร้ายร่างกายจนนายสุวัฒน์น่วมไปทั้งตัว ตามที่ปรากฏเหตุมาแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 27 ต.ค. พล.ต.ท.ศานิตย์มหถาวร รรท.ผบช.น. เปิดเผยว่า เบื้องต้นตนได้พิสูจน์แล้วพบว่าร้านดังกล่าว คือ "ร้านทเวนตี้ ฟรายเดย์" หลังมหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม ซึ่งเป็นร้านอาหารกึ่งผับ ตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนว่าเปิดเกินเวลาหรือไม่ ซึ่งจะต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายอย่างแน่นอน โดยเฉพาะการตรวจสอบใบอนุญาตประกอบการ สำหรับกรณีที่ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปชี้ว่านายสุวัฒน์เป็นผู้แจ้งเบาะแสว่า ร้านดังกล่าวเปิดเกินเวลาที่กำหนดนั้น โดยทั่วไปแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปยืนยันไม่ได้ว่าคนไหนเป็นคนแจ้งเบาะแส เพราะบุคคลที่มาชี้เบาะแสต้องเป็นความลับ จะไปยืนยันไม่ได้เนื่องจากจะทำให้เกิดอันตรายอย่างไรก็ตามตนต้องขอตรวจสอบ ก่อนว่าข้อเท็จจริงทั้งหมดเป็นอย่างไร หากเจ้าหน้าที่เป็นคนชี้เป้าจริงก็ต้องดำเนินการตามกฎระเบียบ
ด้านนายสุวัฒน์ เล่าให้ฟังว่า ช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา ตนไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อนที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งภายในซอยดังกล่าว กระทั่งร้านปิดบริการจึงเดินออกมาหาร้านนั่งดื่มต่อ จนมาพบกับร้านคู่กรณี แต่ไม่ได้นั่งดื่มที่ร้านนั้นแต่อย่างใด เพราะทางร้านปฏิเสธจะให้นั่งดื่ม ตนจึงเดินต่อไปที่ร้านเซเว่นฯเพื่อซื้อเครื่องดื่มแก้กระหายก่อนจะกลับบ้าน แต่ยังไม่ทันได้กลับ ปรากฏว่ามีตำรวจสายตรวจขับรถเข้าไปตรวจร้านดังกล่าว จากนั้นจู่ ๆ ทางเจ้าของร้าน และกลุ่มชายฉกรรจ์ 4-5 คนก็เข้ามาหาเรื่องตน อ้างว่าตนเป็นคนโทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจ เนื่องจากไม่พอใจที่ทางร้านไม่ให้นั่งดื่ม ซึ่งตนปฏิเสธไม่ได้เกี่ยวข้อง ซึ่งคู่กรณีไม่เชื่อด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย จากนั้นก็รุมทำร้ายจนบาดเจ็บ ขณะที่เพื่อนพยายามห้ามปรามชายฉกรรจ์ก็ไม่ยอมหยุด จนตนเองโดนกระทืบหน้าตาบวมปูด มีรอยพกซ้ำและมีบาดแผลฉีก ปวดบริเวณหัวเข่า โทรศัพท์มือถือทรัพย์สินสูญหาย
อย่างไรก็ตามหลังจากเกิดเหตุตำรวจสามารถจับกุม นายยอดยุทธ ตั้งตระกูลเอก อายุ 36 ปี เจ้าของร้านอาหาร "ทเวนตี้วัน ฟรายเดย์" เอาไว้ได้ และให้ยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ทำร้ายร่างกายผู้เสียหายจริง ส่วนผู้ต้องหาคนที่เหลือยังคงให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นก่อเหตุ โดยเข้าไปห้ามปรามเท่านั้น นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติหนึ่งในผู้ต้องสงสัยคือนายชยางกูร อสุนี ณ อยุธยา อายุ 25 ปี พบมีหมายจับในคดีชิงทรัพย์พื้นที่ สน.พญาไท เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับ นายสุวัฒน์เคยตกเป็นผู้เสียหายในคดีที่ถูกคนร้ายจี้ชิงทรัพย์ เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 56 โดยนายสุวัฒน์ถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดแทงคอ เพื่อชิงโทรศัพท์มือถือ ขณะกลับบ้านย่านจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. แต่พอเวลาผ่านไปเพียง 2 ปีก็มาโชคร้ายประสบเหตุถูกเจ้าของร้านอาหารพาพวกรุมทำร้ายอีก
ด้านนายยอดยุทธ เจ้าของร้านอาหารผู้ก่อเหตุ ให้การยอมรับว่า เป็นคนลงมือก่อเหตุทำร้ายผู้ได้รับบาดเจ็บจริง เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกนายสุวัฒน์กลั่นแกล้งแจ้งตำรวจว่าร้านตนเปิดเกินเวลา ทั้งที่ไม่ได้เปิดเกินเวลาแต่อย่างใด แถมช่วงเกิดเหตุคู่กรณีแสดงตัวว่าเป็นนักข่าวยิ่งสร้างความไม่พอใจเป็นอย่าง มากเลยต่อยผู้เสียหาย และเตะเข้าที่ใบหน้า 1 ครั้งเท่านั้น ทั้งนี้ยืนยันว่าร้านของตนขายแต่อาหาร ไม่มีการขายเหล้าหรือเบียร์ ตามที่ถูกกล่าวอ้างแต่อย่างใด
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนเตรียมแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นแก่นายยอดยุทธ และจะคุมตัวไปส่งฟ้องที่ศาลแขวงพระนครเหนือ แต่หากแพทย์ มีความเห็นว่า อาการของนายสุวัฒน์สาหัสก็อาจจะต้องแจ้งข้อหาเพิ่มเติม และส่งดำเนินคดีที่ศาลอาญา ส่วนผู้เสียหายนั้น พนักงานสอบสวนได้นัดหมายมาให้ปากคำในวันพรุ่งนี้ เวลา 09.00 น.


(source)
บิ๊กตร.สั่งสอบรุมยำนักข่าว ฟันไม่เลี้ยงถ้า"โปลิศ"ชี้เป้า
Reviewed by sovanndy
on
10:46 AM
Rating:

No comments: