สกลนครส่งเสริมปลูกพืช ใช้น้ำน้อยหลังนา

โดยโครงการบำรุงและรักษาเขื่อนน้ำอูน สกลนคร และ สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดสกลนคร ได้รายงานสถานการณ์น้ำและแนวโน้มวิกฤติปัญหาภัยแล้ง ปี 58/59 ในพื้นที่ จ.สกลนคร ว่าจะมีไม่เพียงพอสำหรับการเพาะปลูก

สภากาแฟครั้งที่ 1 ประจำเดือน ตุลาคม 2558 ของจังหวัดสกลนคร นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดสกลนคร จัดกิจกรรม โดยมีหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดสกลนครเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

การนี้ โครงการชลประทานสกลนคร โดยโครงการบำรุงและรักษาเขื่อนน้ำอูน สกลนคร และ สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดสกลนคร ได้รายงานสถานการณ์น้ำและแนวโน้มวิกฤติปัญหาภัยแล้ง ปี 58/59 ในพื้นที่ จ.สกลนคร ว่าจะมีไม่เพียงพอสำหรับการเพาะปลูก

พร้อมชี้แจงแนวนโยบายของรัฐบาล 8 มาตรการ ที่จะช่วยเหลือเกษตรกรและการขอความร่วมมือจากเกษตรกรไม่ให้ปลูกข้าวนาปรัง โดยให้เกษตรกรหันมาปลูกพืชใช้น้ำน้อย เช่น ถั่วลิสง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มะเขือเทศ แตงโม แคนตาลูป แทนในรอบฤดูการเพาะปลูกที่จะถึงนี้ ให้กับส่วนราชการ ทั้งภาครัฐและเอกชนที่มาร่วมงานได้รับทราบ

สำหรับจังหวัดสกลนครนั้นในปัจจุบันการส่งเสริมให้ปลูกพืชใช้น้ำน้อยหลังนา มักจะไม่มีปัญหาในเรื่องของผลผลิต ด้วยมีแหล่งรับซื้อทำให้เกษตรกรผู้ปลูกมีรายได้อย่างแน่นอน เพราะมีโรงงานหลวงฯ ที่ 3 (เต่างอย) ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ บ้านนางอย จังหวัดสกลนคร ห่างจากตัวจังหวัดสกลนครประมาณ 25 กิโลเมตร

เป็นโครงการตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อพัฒนาอาชีพ และเสริมรายได้ของราษฎรในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนให้ยั่งยืนด้วยการ ปลูกมะเขือเทศ และส่งเสริมการแปรรูปผลผลิตมะเขือเทศ ในเขตพื้นที่ลุ่มแม่น้ำมูล ทั้งนี้ ด้วยสายพระเนตรที่ยาวไกลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โรงงานหลวงฯ ที่ 3 (เต่างอย) ถือเป็นโรงงานแปรรูปผลผลิตมะเขือเทศแห่งแรกในลุ่มแม่น้ำมูล จึงเป็นโครงการนำร่องให้เกิดโรงงานแปรรูปผลผลิตมะเขือเทศ และการส่งเสริมการปลูกมะเขือเทศของภาคเอกชนตามมาอย่างมากมาย รวมเป็นพื้นที่ส่งเสริมการปลูกมะเขือเทศถึง 23,000 ไร่ในปัจจุบัน จนกระทั่งมีคำกล่าวเรียกพื้นที่ตลอดฝั่งแม่น้ำมูลว่า “เส้นทางสายมะเขือเทศ”

ต่อมาโรงงานได้ปรับปรุงกระบวนการผลิต และเพิ่มกำลังการผลิตอาหารสำเร็จรูปประเภทต่าง ๆ ด้วยเทคโนโลยีและเครื่องจักรที่ทันสมัย ตามมาตรฐานโรงงานผลิตอาหารสำเร็จรูประดับสากล โดยใช้เครื่องจักรที่เอื้อต่อการลดต้นทุนวัตถุดิบ เพิ่มประสิทธิภาพในการบดคั้นน้ำ และทำให้น้ำมะเขือเทศเข้มข้นได้เร็ว โดยใช้มะเขือเทศสด 6 กก. ได้น้ำมะเขือเทศเข้มข้น 1 กก. จากเดิมที่ต้องใช้ถึง 7 กก. พร้อมเพิ่มกำลังการผลิตจากใช้มะเขือเทศสด 180-200 ตันต่อวัน เป็น 300-350 ตันต่อวัน ซึ่งจะสามารถรองรับผลผลิตจากเกษตรกรได้มากขึ้น

นอกจากนี้ยังรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรอื่น ๆ ที่สามารถเพาะปลูกได้ในพื้นที่ อาทิ ข้าว ฝรั่ง มะม่วง ขิง มาทำการแปรรูปอีกด้วย ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 25,000 บาทต่อครอบครัวสำหรับ 1 ฤดูกาลผลิตคือในรอบ 4 เดือน

ทั้งนี้ในปี 2556-2557 ที่ผ่านมา ทางศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ จ.สกลนคร ได้ส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่ปลูกมะเขือเทศภายใต้แนวทางลดต้นทุนพร้อม เพิ่มผลผลิตของมะเขือเทศเฉลี่ยจาก 8 ตันเป็น 13 ตันต่อไร่ต่อฤดูการผลิต เกษตรกรขายได้ 39,000 บาทต่อไร่

สำหรับในปี 2558 ทางศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงาน กปร. ได้จัดทำโครงการนำร่องในรูปแบบการเพาะปลูกมะเขือเทศภายใต้แนวทางลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต นับตั้งแต่การจัดการพื้นที่ การจัดการดิน เมล็ดพันธุ์ และวิธีการปลูกแบบใช้ประโยชน์ของนั่งร้านจากพื้นที่ 100 ไร่ เป็น 200 ไร่

พร้อมสนับสนุนให้กลุ่มเกษตรกรจัดตั้งเป็นกองทุนหมุนเวียนในการจัดหาวัสดุ อุปกรณ์ในการจัดทำนั่งร้านตลอดถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปลูกมะเขือเทศ เพื่อให้กระบวนการผลิตมีความยั่งยืน นำมาซึ่งรายได้ของเกษตรกรที่มั่นคงมากยิ่งขึ้น.






(source)