สืบประเวศจับโจ๋'แก๊งโรเช่' ปล้นแท็กซี่/แค้นปาดหน้า

[post_ad]

3 โจ๋ "แก๊งโรเช่" ลวงแท็กซี่เข้าซอยมืด ก่อนชักปืนยิงหวังปล้นแต่หนีรอด สุดท้ายสืบประเวศตามรวบได้ สารภาพก่อเหตุเพราะแค้นแท็กซี่ชอบปาดหน้าจยย.

เมื่อวันที่ 23 ต.ค.พ.ต.อ.วัชรพงศ์ ดำรงศรี พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ รอง ผบก.น.4 และ พ.ต.อ.เมธา เจียมไกรศรี ผกก.สน.ประเวศ พ.ต.ต.ปกรณ์ ทองช่วง รรท.รองผกก.สส.สน.ประเวศ และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายสหรัฐ หรือมอส แสงเงิน อายุ 20 ปี นายแอ๊ด (นามสมมุติ)อายุ 17 ปี และด.ช.ไอซ์(นามสมมุติ) อายุ 14 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก รถจักรยานยนต์ฮอนด้ารุ่นเวฟ 110 ไอสีแดงดำ ทะเบียน 3 กฌ 1797 กท. ได้ที่กลางซอยอ่อนนุช 86 ถนนอ่อนนุช แขวง-เขตประเวศ



พ.ต.อ.เมธา กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ต.ค.เวลา 03.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งจากทาง รพ.ไทยนครินทร์ว่านายปรีชา จันทร์อ่อน อายุ 43 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ ทะเบียน มฏ 5405 กท.ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ จึงเดินทางไปตรวจสอบ จากการสอบสวนทราบว่านายปรีชาขับรถแท็กซี่คันดังกล่าวอยู่บริเวณถนนอ่อนนุช ก่อนที่นายแอ๊ดซึ่งอยู่บริเวณปากซอยอ่อนนุช 57 จะเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่ซอยอ่อนนุช 65 เมื่อขับเข้าไปภายในซอยซึ่งค่อนข้างเปลี่ยวนายแอ๊ดบอกให้จอดก่อนที่จะลงจาก รถแล้วบอกว่าจะไปเอาเงินจากพี่ชาย หลังจากนั้นนายมอส พร้อม ด.ช.ไอซ์ ขี่จักรยานยนต์เข้ามาพร้อมอาวุธปืนยิงใส่โชเฟอร์ทันที แต่โชเฟอร์แท็กซี่พยายามขับรถหลบหนี ทั้งนี้หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สืบสวนจนสามารถจับกุมตัวผู้ที่ก่อเหตุเอาไว้ ได้ในที่สุด



จากการสอบสวนนายมอสให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นคนยิงแท็กซี่คันดังกล่าวจริง โดยปืนเป็นปืนของ ด.ช.ไอซ์ ซื้อมาในราคา 1,000-2,000 บาท สำหรับสาเหตุนั้น ตนกินยากล่อมประสาท(โซเร็ม) จากนั้นก็ได้นัดแนะกับทางนายแอ๊ดเพื่อก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งตนมีความโกรธแค้นทางแท็กซี่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วเพราะเวลาขี่จักรยานยนต์ รถแท็กซี่ชอบขับปาดหน้า ซึ่งถ้าก่อเหตุสำเร็จจะนำเงินที่ได้ไปซื้อยากล่อมประสาทมากิน และใช้จ่าย อย่างไรก็ตามตนสำนึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยากจะขอโทษกับการกระทำดัง กล่าว



รายงานข่าวแจ้งว่ากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวจะอยู่กันเป็นกลุ่มโดยใช้ชื่อกลุ่ม ว่าแก๊งโรเช่ ตระเวนก่อเหตุลักษณะดังกล่าวแถบชานเมืองอ่อนนุช ร่มเกล้า มาก่อน



เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันก่อเหตุพยายามปล้นทรัพย์,พยายาม ฆ่าผู้อื่น และข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองก่อนส่งตัวดำเนินคดีต่อไป.






(source)