'บิ๊กตู่'ยันมาตรการกระตุ้นศก.ไม่เอื้อประโยชน์ใคร

[post_ad]

"บิ๊กตู่"ขออย่าตำหนิมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ วอนมองภาพรวม ยันไม่ได้เอื้อประโยชน์ใคร จี้จัดซื้อเมล์เอ็นจีวี แทนคันเก่าสภาพเสื่อมโทรม-ไม่ปลอดภัย แย้มอาจใช้มาตรการซื้อสำเร็จรูประยะแรก

เมื่อวันที่ 23 ต.ค. เวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ว่า ในเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจปัจจุบันรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ทำไปหลายส่วนแล้ว ทั้งการเกษตร อุตสาหกรรม การค้า การลงทุน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะนี้เราเน้นเรื่องอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะเป็นการเชื่อมโยงผู้ประกอบการ ผู้ผลิต ผู้ขายวัสดุก่อสร้าง การจ้างงาน และเป็นการสร้างความยั่งยืนในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ยืนยันว่าเราไม่ได้ทำเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับใครทั้งสิ้น ไม่อยากให้ตำหนิ ขอให้มองภาพรวม ไม่อยากให้มองว่าใครจะได้ ใครจะเสีย ทุจริตหรือไม่ เป็นคนละเรื่องกับการทำงานของรัฐบาลเวลานี้ หากรัฐบาลไม่ทำอะไรเลย ก็จะมองว่ารัฐบาลไม่ได้แก้ไขปัญหา

“ รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับผู้มีรายได้น้อย แต่ต้องดูภาคอื่น ๆ ด้วย เราพยายามแก้ไขปัญหาหนี้สิน หากจะเกิดหนี้ขึ้นมา ต้องเป็นหนี้ที่ทำให้เกิดมูลค่า เป็นทรัพย์สมบัติที่ยั่งยืนได้ ให้ลูก ให้หลานในอนาคต สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจในภาพรวมนั้น หลายอย่างยังทรงตัว หลายอย่างเริ่มดีขึ้น บางอย่างก็แย่ เพราะมีผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก วันนี้ประชาชนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่รู้สึก ว่าตัวเองได้อะไรจากการที่รัฐบาลที่เข้ามา เพราะรายได้ยังไม่เพิ่ม ยังไม่ได้เงินเหมือนที่เคยได้มาง่ายๆ ก็คงต้องเข้าใจ เพราะต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหาทั้งระบบให้ได้ หากระบบเศรษฐกิจเราเข้มแข็ง สร้างความเชื่อมโยงกันให้ได้ ก็จะเพิ่มห่วงโซ่คุณค่าทำให้มีการหมุนเวียน ทำให้เศรษฐกิจเล็ก กลาง ใหญ่ดีขึ้น ผลประโยชน์โดยรวมก็จะเกิดกับประเทศ มีรายได้ที่มากขึ้น มาดูแลประชาชนอีกมากมาย “ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ส่วนการช่วยเหลือเกษตรกร เรื่องข้าว และยางพารา หรือผลผลิตทางการเกษตรอื่น ๆ ที่สำคัญ เราเน้นการปรับปรุง การปฎิรูปทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง สิ่งที่น่ายินดีในช่วงนี้ คือเรื่องยางได้ข้อสรุปว่าจะร่วมมือกันแก้ปัญหาทั้งระบบ ลดต้นทุน ทำทุกอย่างให้อยู่ในกรอบกฎหมายและพันธะสัญญาต่าง ๆ ที่เราทำไว้กับต่างประเทศ ซึ่งเราได้มีการตกลงกับนายกสมาคมฯ หรือผู้ที่มีบทบาท ว่าจะไม่มีการเรียกร้อง และทำให้เกิดความวุ่นวายอีกต่อไป ส่วนเรื่องการใช้น้ำอุปโภคบริโภค หรือน้ำเพื่อการเกษตรนั้น ยังคงต้องระมัดระวังให้มากที่สุด การจะเพาะปลูกพืชในฤดูกาลใหม่ ขอให้ฟังข้อมูลและคำชี้แจงจากทางราชการ เพราะถ้าหากเกิดความเสียหายแล้ว รัฐบาลอาจจะไม่สามารถช่วยเหลือได้ทัน

พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวถึงเรื่องการซื้อรถบัสโดยสารประจำทางเอ็นจีวี ว่า จากข้อมูลในปัจจุบันพบว่ารถโดยสารประจำทางส่วนใหญ่อยู่ในสภาพเก่ามาก และไม่ปลอดภัย โดยมาตรการในระยะแรกคือการจัดหาเร่งด่วนทันที แต่ต้องโปร่งใส เพื่อทดแทนรถที่สภาพทรุดโทรมมาก อาจจำเป็นต้องจัดซื้อสำเร็จรูป ระยะที่สอง อาจเป็นเรื่องของผู้ประกอบการในประเทศ จะต้องผลิตขึ้นมาเอง สร้างผู้ประกอบการรายใหม่ขึ้นมา และต้องมีราคาที่ถูกลง ทั้งนี้การพิจารณาปรับโครงสร้างพื้นฐานรถไฟฟ้า รถไฟ และรถประจำทาง ในอนาคต ต้องทำให้สอดคล้องกัน ทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตามแผนงาน วันนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาวิจัย และดำเนินการให้รวดเร็วขึ้น โดยมีแนวความคิดใช้รถไฟฟ้าที่เป็นรถเมล์ เพื่อทำให้เกิดการประหยัดพลังงานมากขึ้น ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นระบบรางทั้งหมด เป็นรถล้อ น่าจะใช้ได้ในถนน ในเส้นทางที่ไม่แออัด ถ้าเราทำเองได้จะถูกลง แต่ปัญหา คือ เรามีความพร้อมในการผลิตหรือยัง มีเทคโนโลยีต่าง ๆ มากมาย ซึ่งเราจะต้องศึกษาเรียนรู้ต่อไป.





(source)