ส.บอลฯออกแถลงการณ์ ยันที่มา 30 เสียงด.2 ถูกต้อง-เตือน “กกท.เสธ.โต” รื้อระบบอาจวุ่น
[post_ad]
แถลงการณ์ของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๘
ตามที่ กกท.โดยนายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการ กกท. และพลเรือเอก สุรวุฒิ มหารมณ์ ประธานคณะกรรมการกลาง ได้ให้ข่าวต่อสื่อมวลชนในทำนองเดียวกันว่า จะเข้ามาจัดการบริหารในสมาคมฟุตบอลฯแทนสภากรรมการชุดเดิมที่รักษาการอยู่ ตลอดจนจะทบทวนแก้ไขข้อบังคับลักษณะปกครองฯ ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยที่ประชุมใหญ่เมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๕๘ แล้ว โดยจะแก้ไขในส่วนของตัวแทนผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียง ในลีกภูมิภาคดิวิชั่น ๒ จำนวน ๖ ภาค ภาคละ ๕ คน รวม ๓๐ คนโดยอ้างว่ามีการได้เปรียบเสียเปรียบเกิดขึ้นในระหว่างผู้สมัครรับเลือกตั้ง ดังนั้นจะหาวิธีการที่เป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายโดยจะแก้ไขข้อบังคับลักษณะปกครองฯที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้
สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขอแถลงข้อเท็จจริงว่า ตามที่นายสกล วรรณพงษ์ และพลเรือเอก สุรวุฒิ มหารมณ์ ต่างก็ได้รับหนังสือแจ้งจากทาง FIFA ว่าพลเรือเอก สุรวุฒิ มหารมณ์ และคณะกรรมการกลางมีหน้าที่จัดการเลือกตั้งกรรมการสมาคมฟุตบอลฯชุดใหม่ ให้เสร็จสิ้นไปภายในวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ เท่านั้น ไม่มีอานาจหน้าที่ยุ่งเกี่ยวหรือแทรกแซงการบริหารของสมาคมฯ ซึ่งข้อความนี้ปรากฎตามหนังสือของ FIFA ฉบับลงวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๘ ลงนามโดยนายมาคุส คัตต์เนอร์ รักษาการเลขาธิการ FIFA ที่ส่งมาถึงสมาคมฟุตบอลฯ และทางสานักงานเลขาธิการก็ได้นำส่งสาเนาหนังสือนี้ให้แก่ กกท.และพล.ร.อ. สุรวุฒิฯ ประธานคณะกรรมการกลาง ทราบแล้ว
นอกจากนี้สาระสำคัญในหนังสือของ FIFA ดังกล่าว ก็ยังได้รับรองว่าการประชุมใหญ่วิสามัญเมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๕๘ เรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับฯ พ.ศ. ๒๕๕๘ ว่าได้กระทำโดยถูกต้องและเป็นไปตามข้อบังคับของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ทุกประการแล้ว
ส่วนที่ นายสกลฯ และพล.ร.อ. สุรวุฒิฯ แจ้งต่อสื่อมวลชนว่า ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับกระบวนการในการสรรหาตัวแทนจำนวน ๓๐ คนจากลีกภูมิภาคดิวิชั่น ๒ ว่าเป็นการดาเนินการโดยโปร่งใสหรือไม่ ซึ่งอาจจะเป็นเหตุให้ผู้สมัครเกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกัน และจะเข้ามาแก้ไขโดยทำการเปลี่ยนแปลงกระบวนการสรรหาตัวแทนในลีกภูมิภาคดังกล่าวในเรื่องนี้ สมาคมฯขอชี้แจงว่า กระบวนการสรรหาเป็นไปตามข้อบังคับฯ ซึ่งธรรมนูญ FIFA กำหนดไว้ เนื่องจากเดิมในปี พ.ศ. ๒๕๕๖ ข้อบังคับฯกำหนดให้ใช้ระบบ Ranking อันดับ ๑-๕ ของแต่ละภาครวม ๖ ภาค แต่ในข้อบังคับฯกำหนดว่าให้ใช้ระบบนี้ได้เฉพาะในปีพ.ศ. ๒๕๕๖ เท่านั้น เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ทางสมาคมฯต้องแก้ไขข้อบังคับฯให้สอดคล้องกับธรรมนูญของ FIFA ในเรื่องการสรรหาผู้แทนในแต่ละภาคโดยตัวแทนของแต่ละสโมสรในแต่ละภาคจะมาทำการสรรหากันเอง ซึ่งในการ ดำเนินการสรรหาตัวแทนทั้ง ๖ ภาคทางสมาคมฯ ก็ได้ส่งหลักฐานให้แก่ทางกกท.ดังนี้
๑. รายชื่อประธานหรือตัวแทนสโมสรที่เข้าร่วมประชุมทั้ง ๖ ภาค
๒. รายงานการประชุมการสรรหาตัวแทนจานวน ๖ ภาคๆละ ๕ คนรวม ๓๐ คน
๓. บันทึกการยืนยันและลงนามรับรองของประธานหรือตัวแทนที่ทำการสรรหาตัวแทนทั้ง ๖ ภาคๆ ละ ๕ คนรวม ๓๐ คน
๔. ดีวีดีบันทึกขั้นตอนและกระบวนการสรรหาตัวแทนทั้ง ๖ ภาคๆละ ๕ คนรวม ๓๐๐ คนโดย สื่อมวลชนจัดทำ (และสื่อมวลชนได้แพร่ภาพและเสียงออกอากาศแล้ว)
ดังนั้น ในปัญหาที่ทางนายสกลฯในฐานะผู้ว่ากกท.และพล.ร.อ. สุรวุฒิฯ ประธานคณะกรรมการกลาง สงสัยเรื่องการสรรหาตัวแทนทั้ง ๓๐ คนจากลีกภูมิภาคดิวิชั่น ๒ ทั้ง ๖ ภาคสมาคมฯยืนยันว่าการสรรหา ตัวแทนทั้ง ๓๐ คน เป็นไปตามข้อบังคับและกระทำโดยเปิดเผย โดยสโมสรสมาชิกในแต่ละภาคได้ดำเนินการ ด้วยตนเอง สมาคมฯไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวและแทรกแซงการสรรหาตัวแทนของแต่ละภาคเลย เพียงแต่สมาคมฯ เข้าไปสังเกตุการณ์และให้การรับรองโดยนายวิมล กาญจนะ ประธานลีกภูมิภาค ดิวิชั่น ๒ เป็นผู้รับรอง
ปัญหาเรื่องการสรรหาตัวแทนผู้มีสิทธิลงคะแนนในลีกภูมิภาค ดิวิชั่น ๒ ทางสมาคมฯได้มอบหลักฐาน ชี้แจงในเรื่องดังกล่าวทั้งหมดให้กับผู้ว่า กกท.แล้วหลังจากที่ยื่นขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับฯ โดยทาง กกท. แจ้งทางสมาคมฯส่งหลักฐานดังกล่าวแล้ว และ กกท ก็ได้รับหลักฐานนี้ไปครบถ้วนแล้ว
การที่นายสกลฯ และ พล.ร.อ. สุรวุฒิฯ ได้ออกข่าวให้สัมภาษณ์ว่า จะดำเนินการแก้ไขข้อบังคับ ลักษณะปกครองฯ เกี่ยวกับตัวแทนผู้มีสิทธิออกเสียงในลีกภูมิภาค ดิวิชั่น ๒ นั้น สมาคมฯขอเรียนว่า ท่านทั้ง สองก็ได้รับสาเนาหนังสือของ FIFA ฉบับลงวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๘ แล้ว ว่า FIFA ให้การรับรองข้อบังคับฯ ดังกล่าวที่สมาชิกผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงในที่ประชุมใหญ่เมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๕๘ ซึ่งมีมติรับรองเป็น จานวน ๕๘ เสียง ดังนั้น หากท่านทั้งสองดำเนินการแก้ไขข้อบังคับฯอีก แล้วถูก FIFA ลงโทษสั่งแบนสมาคมฯ ท่านทั้งสองจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่วงการฟุตบอลของประเทศไทย สมาคมฯจึง ขอให้ท่านทั้งสองได้โปรดทบทวนเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของท่านตามข้อบังคับลักษณะปกครองฯ รวมถึงให้ ศึกษาระเบียบวิธีการเลือกตั้งฯ ๒๕๕๖ โดยละเอียดเสียก่อน ว่าท่านทั้งสองมีขอบเขตและอำนาจหน้าที่เพียงใด ในการทาหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้งในครั้งนี้ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่วงการฟุตบอลของ ประเทศไทยต่อไป
( นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ )
ประธานฝ่ายกฎหมาย

(source)
ส.บอลฯออกแถลงการณ์ ยันที่มา 30 เสียงด.2 ถูกต้อง-เตือน “กกท.เสธ.โต” รื้อระบบอาจวุ่น
Reviewed by sovanndy
on
7:53 PM
Rating:

No comments: