ผวา'พลายงายาว'คลั่งหนัก! กระทืบชาวสวนสยอง2ศพ

[post_ad]

ตายสยอง 2 ศพ เจ็บสาหัสอีก 1!เมืองจันท์เตรียมประกาศให้พื้น ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว เป็นเขตภัยพิบัติช้างป่า หลังชาวสวนยางเคราะห์ร้ายโดนพลายงายาว หรือพลายงาบิดไล่ทำร้ายตายคาที่

เมื่อเวลา 03.30 น.วันที่ 30 ต.ค. ร.ต.ท.ไสว ชินวงศ์ ร้อยเวร สภ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี รับแจ้งเหตุช่างป่าอาละวาดทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิต 2 ราย เหตุเกิดภายในสวนยางพารา พื้นที่หมู่ 2 และหมู่ 5 บ้านคลองยายไท ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี โดยหลังเกิดเหตุช่างป่าเตลิดเดินหนีเข้าไปในป่ารอยต่อเขตอุทยานเขาสิบห้า ชั้น หลังรับแจ้งพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชวลิต นาคสุข ผกก.นายรนัสถ์ชัย พุ่มเจริญ นอภ.แก่งหางแมว นายอนันต์ นพเวช เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญการ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการที่ 1 ชุดปฏิบัติการเฝ้าระวัง และติดตามช้างป่า อุทยานเขาสิบห้าชั้น นายเดช จินโนรส นายก อบต.ขุนซ่อง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และทหารจาก ชกท.ทร.ที่ 8 พัน ร.ฉก.นย. จันทบุรีเดินทางติดตามแกะรอยช้างป่า เนื่องจากได้รับรายงานว่ายังอยู่ในพื้นที่
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในสวนยางพารา พื้นที่หมู่ 2 ต.ขุนซ่อง พบศพนายทวีพร พ่วงกระโทก อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 40/5 หมู่ 11 ต.แก่งหางแมว อ.แก่งหางแมว คนงานรับจ้างกรีดยางพารา สภาพถูกช้างทำร้ายจนขาขวาขาด และถูกงาแทงจนไส้ทะลัก นอนเสียชีวิตอยู่กลางร่องยาง โดยมี น.ส.ลดาวัลย์ รสฟุ้ง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/2 หมู่ 11 ต.ขุนซ่อง ญาติของผู้ตายให้การกับเจ้าหน้าที่ด้วยอาการตื่นตระหนกว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายพร้อมญาติอีก 4 คนพากันออกมากรีดยาง ขณะทำงานอยู่นั้น จู่ ๆ ได้ยินเสียงช้างป่าดังออกมาจากทางด้านที่ผู้ตายกรีดยางอยู่ พร้อมกับเสียงร้องของนายทวีพร เมื่อวิ่งไปดูก็พบว่านายทวีพรถูกช้างทำร้ายเสียชีวิตไปแล้ว ส่วนช้างป่าพบเพียงตัวเดียว หลังเกิดเหตุได้เดินเตลิดหายไปในป่า
เวลาต่อมาเจ้าหน้าที่รับแจ้งมีชาวบ้านถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิตอีก 1 ราย เหตุเกิดในสวนยางพื้นที่ หมู่ 5 ต.ขุนซ่อง ห่างจากจุดแรกประมาณ 3 ก.ม. จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ เบื้องต้นพบศพนายมีชัย บุระพุทธ อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 88 หมู่ 7 ต.อ้อมกอ อ.บ้านคุง จ.อุดรธานี คนงานรับจ้างกรีดยางนอนเสียชีวิตอยู่ใต้โคนต้นยาง สภาพถูกช้างป่าใช้เท้ากระทืบร่างกายจนกระดูกหัก และใช้งาแทงจนไส้ทะลักน่าสยดสยอง นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านถูกช้างป่าทำร้ายบาดเจ็บสาหัสอีก 1 คน ชื่อ น.ส.บังอร เขาโพธิ์งาม อายุ 46 ปี คนงานกรีดยาง ถูกช้างป่าทำร้ายจนขาหักทั้งสองข้าง เบื้องต้นถูกนำตัวส่งเข้ามารักษายัง รพ.พระปกเกล้าจันทบุรี
จากการสอบสวนเบื้องต้นนางไพรสน บุระพุทธ อายุ 39 ปี ภรรยานายมีชัยให้การด้วยอาการไม่หายตื่นตกใจว่า ขณะเกิดเหตุกำลังเดินกรีดยางอยู่กับสามี โดยอยู่ห่างกันประมาณ 50 เมตร จากนั้นมีช้างป่าตัวใหญ่งายาวเดินปรี่ออกมาจากสวนข้าง ๆ ก่อนจะไล่ทำร้ายสามีตนที่พยายามจะวิ่งหนี แต่ไม่พ้นถูกช้างป่าใช้งวงฟาดจนล้มลง ก่อนใช้เท้าหน้ากระทืบ และใช้งายาวแทงซ้ำหลายครั้งจนนายมีชัยเสียชีวิตคาที่ จากนั้นช้างป่าได้วิ่งเข้าไปทำร้าย น.ส.บังอร ที่กรีดยางอยู่ในสวนติดกันจนได้รับบาดเจ็บตามไปอีกคน
ทั้งนี้หลงเกิดเหตุนายรนัสถ์ชัย พุ่มเจริญ นอภ.แก่งหางแมว ได้รายนำข้อมูลเบื้องต้นต่อ ผวจ.จันทบุรี และ ปภ.จังหวัด เพื่อเตรียมประกาศให้พื้น ต.ขุนซ่องอ.แก่งหางแมว เป็นพื้นที่ภัยพิบัติช้างป่า และจัดงบประมาณฉุกเฉินเยียวยาช่วยเหลือครอบครัวของชาวบ้านที่ถูกช้างป่าทำ ร้ายเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ พร้อมกันนี้ได้ประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ เฝ้าระวังช้างป่างดกรีดยางออกจากบ้านเรือนในช่วงกลางคืน เนื่องจากช้างป่ายังอยู่ในพื้นที่
ขณะที่นายอนันต์ นพเวช เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญการ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการที่ 1 ชุดปฏิบัติการเฝ้าระวังและติดตามช้างป่า อุทยานเขาสิบห้าชั้น เปิดเผยว่า ช้างป่าที่ก่อเหตุคือ พลายงายาว หรือพลายงาบิด เป็นตัวเดียวกันกับที่ก่อเหตุไล่ทำร้ายชาวบ้าน และใช้งาแทงรถกระบะได้รับความเสียหายเมื่อช่วง 3 วันที่ผ่านมา เบื้องต้นพลายงาบิดยังอยู่ในอาการตกมัน และคุ้มคลั่ง คาดว่าอาจจะเกิดจากถูกขับไล่ออกจากโขลง และเกิดจากนิสัยดุร้ายเฉพาะตัว ขณะนี้ยังหลบอยู่ในป่ารอยต่อเขตอุทยาน เบื้องต้นได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้และชกท.ทร.ที่ 8 พัน ร.ฉก.นย. จันทบุรี กระจายกำลังแกะรอยพลายงายาว ในการคอยสังเกตพฤติกรรมและป้องกันไม่ไห้ออกมาในพื้นที่ชาวบ้าน อย่างไรก็ตามในช่วงสายวันนี้จะได้เรียกประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วม หารือวางแนวทางป้องกัน และผลักดันช้างป่ากลับเข้าอุทยานฯต่อไป.




(source)